ถือหุ้นกี่ตัวดี? ในกรณีมือใหม่
ถือหุ้นกี่ตัวดี? คำถามนี้ถือว่าเป็นคำถามยอดฮิตของนักลงทุนมือใหม่ก็ว่าได้ และผมก็เชื่อว่าถ้าไปถามที่ไหนๆ ก็มักจะได้ตอบมาในแนวๆ ที่ว่า “มันแล้วแต่รูปแบบการลงทุนของคุณ” หรือว่า “มันขึ้นกับตัวคุณเอง” เป็นส่วนใหญ่ แม้ว่าคำตอบแบบนั้นมันจะเป็นความจริง แต่ผมเชื่อว่ามันไม่ค่อยตรงใจคนถามนัก 
เอาเถอะ เราลองมาดูคำตอบในแนวของผมบ้าง
ในกรณีเริ่มลงทุนหุ้นใหม่ๆ เชื่อว่าหลายท่านจะเริ่มเข้ามาในตลาดหุ้นด้วยเงินทุนที่น้อยๆ ก่อน (ประมาณ 100,000 บาทต้นๆ ขึ้นไป) เพื่อไม่ให้หลงทางในเกมการเงิน ในตลาดทุนแห่งนี้ ผมอยากให้มองว่า การลงทุนในหุ้นคือการลงทุนในธุรกิจ ดังนั้นคำตอบของผมในคำถามข้างต้นจึงออกมาเป็นข้อๆ ตามด้านล่างครับ
เริ่มแรกๆ ควรจะถือ 3-5 ตัวก่อน ถ้าเงินเริ่มต้นอยู่ในช่วง 1 แสนบาทต้นๆ แนะนำว่า 3 ตัวจะดีที่สุด อาจจะศึกษาหรือติดตามดูไว้เป็นสิบๆ ตัวก็ได้ ไม่ว่ากัน แต่ที่จะถือจริงๆ ควรโฟกัสไว้ที่ 3 ตัวก่อน เพื่อไม่ให้เงินทุนของเรากระจายออกไปเป็นเบี้ยหัวแตก มันจะได้ไม่คุ้มเสีย
และอีกอย่างถ้าลองคิดเทียบในรูปแบบการทำธุรกิจ ถ้าเราเริ่มทำธุรกิจใหม่ๆ ยังไม่มีประสบการณ์ แต่เล่นเปิดบริษัทซะ 10 กว่าบริษัทเลยแบบนี้ แน่นอนว่าการดูแลไม่น่าจะทั่วถึงกว่าการเปิดบริษัทในธุรกิจที่เราเข้าใจซัก 3 บริษัทก่อน(เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพนะครับ จริงๆ คงไม่มีใครเปิดมากอย่างนั้น แค่บริษัทเดียวก็วุ่นพออยู่แล้ว ) เหมือนกับหุ้นเช่นกัน พอเข้มแข็งแล้ว อยู่รอดได้ มีทุนมีประสบการณ์เพิ่มขึ้นแล้ว ค่อยขยับขยายก็ไม่สายเกินไปครับ
ควรจะให้น้ำหนักตัวแรกที่เราเข้าใจมันดีที่สุดที่ 50% ของพอท์ต ตัวที่สองที่ 30% ของพอท์ต ตัวที่สาม 20% ของพอท์ต เพื่อเป็นการโฟกัสไปในตัวที่เราเข้าใจ และให้เงินทุนของเราแสดงประสิทธิภาพของมันออกมาให้มากที่สุดครับ
เนื่องจากอยู่ในช่วงเริ่มต้นลงทุน ผมอยากให้มองการลงทุนในหุ้นให้เหมือนกับเราเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นๆ ที่หุ้นดำเนินธุรกิจอยู่ด้วย ควรเลื่อกหุ้นที่มีประวัติการจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอ ธุรกิจของหุ้นนั้นๆ ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตไปเรือยๆ ในอนาคต มีผู้บริหารที่มีฝีมือและที่สำคัญที่สุดต้องมีความโปร่งใส มีงบการเงินที่แข็งแรง
หวังว่าคำตอบที่ได้น่าจะมีประโยชน์ต่อท่านที่สงสัยในเรื่องนี้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
สำหรับมือใหม่ที่จดๆ จ้องๆ อยู่นอกตลาด ไม่รู้ว่าจะเข้ามาลงทุนในหุ้นดีหรือเปล่า แนะนำว่าอย่าเอาแต่อ่านอย่างเดียว ให้ลองเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นด้วยเงินทุนที่น้อยๆ ก่อนก็ได้ครับ “เรียนรู้จากการลงมือทำ” ประสบการณ์จะสอนเราเอง
ไม่ต้องกลัวความเสี่ยง เพราะว่าความเสี่ยงที่มีในการลงทุนนั้น จะลดลงได้ถ้าหากเรามีความเข้าใจในธุรกิจที่จะลงทุน ยิ่งเราเข้าใจมันมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงในการลงทุนในหุ้นนั้นๆ ก็จะลดลงมากขึ้นเท่านั้นครับ
เอาเถอะ เราลองมาดูคำตอบในแนวของผมบ้าง
ในกรณีเริ่มลงทุนหุ้นใหม่ๆ เชื่อว่าหลายท่านจะเริ่มเข้ามาในตลาดหุ้นด้วยเงินทุนที่น้อยๆ ก่อน (ประมาณ 100,000 บาทต้นๆ ขึ้นไป) เพื่อไม่ให้หลงทางในเกมการเงิน ในตลาดทุนแห่งนี้ ผมอยากให้มองว่า การลงทุนในหุ้นคือการลงทุนในธุรกิจ ดังนั้นคำตอบของผมในคำถามข้างต้นจึงออกมาเป็นข้อๆ ตามด้านล่างครับ
ถือหุ้นกี่ตัวดี?
เริ่มแรกๆ ควรจะถือ 3-5 ตัวก่อน ถ้าเงินเริ่มต้นอยู่ในช่วง 1 แสนบาทต้นๆ แนะนำว่า 3 ตัวจะดีที่สุด อาจจะศึกษาหรือติดตามดูไว้เป็นสิบๆ ตัวก็ได้ ไม่ว่ากัน แต่ที่จะถือจริงๆ ควรโฟกัสไว้ที่ 3 ตัวก่อน เพื่อไม่ให้เงินทุนของเรากระจายออกไปเป็นเบี้ยหัวแตก มันจะได้ไม่คุ้มเสีย
และอีกอย่างถ้าลองคิดเทียบในรูปแบบการทำธุรกิจ ถ้าเราเริ่มทำธุรกิจใหม่ๆ ยังไม่มีประสบการณ์ แต่เล่นเปิดบริษัทซะ 10 กว่าบริษัทเลยแบบนี้ แน่นอนว่าการดูแลไม่น่าจะทั่วถึงกว่าการเปิดบริษัทในธุรกิจที่เราเข้าใจซัก 3 บริษัทก่อน(เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นภาพนะครับ จริงๆ คงไม่มีใครเปิดมากอย่างนั้น
แค่บริษัทเดียวก็วุ่นพออยู่แล้ว ) เหมือนกับหุ้นเช่นกัน พอเข้มแข็งแล้ว อยู่รอดได้ มีทุนมีประสบการณ์เพิ่มขึ้นแล้ว ค่อยขยับขยายก็ไม่สายเกินไปครับแล้วจะกระจายน้ำหนักเงินลงทุนในหุ้นแต่ล่ะตัวอย่างไร?
ควรจะให้น้ำหนักตัวแรกที่เราเข้าใจมันดีที่สุดที่ 50% ของพอท์ต ตัวที่สองที่ 30% ของพอท์ต ตัวที่สาม 20% ของพอท์ต เพื่อเป็นการโฟกัสไปในตัวที่เราเข้าใจ และให้เงินทุนของเราแสดงประสิทธิภาพของมันออกมาให้มากที่สุดครับ
ควรเลือกหุ้นอย่างไร?
เนื่องจากอยู่ในช่วงเริ่มต้นลงทุน ผมอยากให้มองการลงทุนในหุ้นให้เหมือนกับเราเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นๆ ที่หุ้นดำเนินธุรกิจอยู่ด้วย ควรเลื่อกหุ้นที่มีประวัติการจ่ายปันผลที่สม่ำเสมอ ธุรกิจของหุ้นนั้นๆ ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตไปเรือยๆ ในอนาคต มีผู้บริหารที่มีฝีมือและที่สำคัญที่สุดต้องมีความโปร่งใส มีงบการเงินที่แข็งแรง
หวังว่าคำตอบที่ได้น่าจะมีประโยชน์ต่อท่านที่สงสัยในเรื่องนี้บ้างไม่มากก็น้อยนะครับ
สำหรับมือใหม่ที่จดๆ จ้องๆ อยู่นอกตลาด ไม่รู้ว่าจะเข้ามาลงทุนในหุ้นดีหรือเปล่า แนะนำว่าอย่าเอาแต่อ่านอย่างเดียว ให้ลองเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นด้วยเงินทุนที่น้อยๆ ก่อนก็ได้ครับ “เรียนรู้จากการลงมือทำ” ประสบการณ์จะสอนเราเอง
ไม่ต้องกลัวความเสี่ยง เพราะว่าความเสี่ยงที่มีในการลงทุนนั้น จะลดลงได้ถ้าหากเรามีความเข้าใจในธุรกิจที่จะลงทุน ยิ่งเราเข้าใจมันมากเท่าไหร่ ความเสี่ยงในการลงทุนในหุ้นนั้นๆ ก็จะลดลงมากขึ้นเท่านั้นครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น